Headlines

เกษตรย่านตาขาว ลงพื้นที่สำรวจโรคผลเน่าทุเรียน ที่เกิดจากเชื้อรา Phytophthora palmivora ตำบลโพรงจระเข้

เกษตรย่านตาขาว ลงพื้นที่สำรวจโรคผลเน่าทุเรียน ที่เกิดจากเชื้อรา Phytophthora palmivora ตำบลโพรงจระเข้


วันที่ 10 มิถุนายน 2568 นางแพรวพรรณ ทองพิทักษ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ รักษาราชการแทน เกษตรอำเภอย่านตาขาว ลงพื้นที่สำรวจโรคและแมลงศัตรูทุเรียนนของนายอภิโชติ มีสุข ที่ตั้งแปลงอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง เกษตรปลูกทุเรียน จำนวน 150 ต้น ในพื้นที่จำนวน 8 ไร่ อายุประมาณ 7 ปี

เนื่องจากช่วงนี้ฝนตกชุกอย่างต่อเนื่อง สภาพอากาศในมีความชื้นค่อนข้างสูง ทำให้สภาพดังกล่าวเหมาะต่อการระบาดของโรคผลเน่า

โรคผลเน่าทุเรียนจากเชื้อรา Phytophthora palmivora เริ่มแรกเกิดจุดแผลขนาดเล็กสีน้ำตาลดำบนผล จุดแผลจะขยายใหญ่ลุกลามมากขึ้นตามการสุกของผล ในสภาพที่มีความชื้นสูงอาจพบ เส้นใยสีขาวของเชื้อราสาเหตุโรคบนแผล พบอาการโรคได้ตั้งแต่ผลที่ยังอยู่บนต้น ซึ่งถ้าอาการรุนแรงมากผลจะเน่าร่วงหล่นก่อนกำหนด โรคนี้พบได้ตั้งแต่ระยะผลอ่อน แต่ส่วนใหญ่มักพบในผลช่วง 1 เดือนก่อนเก็บเกี่ยวจนกระทั่งเก็บเกี่ยว และระหว่างการบ่มผลให้สุก

แนวทางป้องกัน

1. หมั่นตรวจผลทุเรียนในแปลงอย่างสม่ำเสมอ ตัดผลที่เป็นโรค และเก็บผลเน่าที่ร่วงหล่นไปเผาทำลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกำ จัดโรคพืชเมทาแลกซิล 25% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 30-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตรหรือ ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม 80% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 30-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ให้ทั่วทรงพุ่ม จำนวน 1-2 ครั้ง ทุก 7-10 วัน และควรหยุดพ่นสารก่อนเก็บเกี่ยวผล อย่างน้อย 15 วัน

2. ไม่นำเครื่องมือตัดแต่งที่ใช้กับต้นเป็นโรคไปใช้ต่อกับต้นปกติ และควรทำความสะอาดเครื่องมือก่อนนำไปใช้ใหม่ทุกครั้ง

3. ในแปลงปลูกที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคผลเน่าสูง เนื่องจากมีต้นที่เป็นโรครากเน่าและโคนเน่าในแปลงมาก และมีฝนตกชุกหรือมีความชื้นในอากาศสูงในช่วงทุเรียนใกล้เก็บเกี่ยวผล เชื้อสาเหตุโรคอาจจะติดไปกับผลได้โดยยังไม่แสดงอาการ ดังนั้น การเก็บเกี่ยวผลต้องระมัดระวังไม่ให้ผลสัมผัสกับดิน หรือปูพื้นดินที่จะวางผลด้วยวัสดุหรือกระสอบที่สะอาด เพื่อลดโอกาสที่ผลจะสัมผัสกับดินซึ่งมีเชื้อสาเหตุโรค และการขนย้ายควรระมัดระวังบาดแผลที่จะเกิดขึ้นกับผล

**** โรคผลเน่า มีเชื้อสาเหตุชนิดเดียวกับโรครากเน่าและโคนเน่า ดังนั้นเพื่อให้การป้องกันกำจัดโรคได้ผลดี ควรทำการป้องกันกำจัดโรครากเน่าโคนเน่าไปพร้อมกัน

ภาพ/ข่าว/รายงาน : นางแพรวพรรณ ทองพิทักษ์ นวส.ชำนาญการ


กลับสู่ด้านบน