เกษตรย่านตาขาว ร่วมบูรณาการกับกลุ่มอารักขาพืช และกรมวิชาการเกษตร ลงพื้นที่สำรวจโรคลำต้นเน่าปาล์มน้ำมัน ตำบลทุ่งค่าย
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 นายนนท์นภนต์ นาพอ เกษตรอำเภอย่านตาขาว มอบหมายให้นางแพรวพรรณ ทองพิทักษ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ พร้อมด้วยนางสาวอริษา คงอินทร์ นักศึกษาฝึกงานสาขาการจัดการรัฐกิจ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง ร่วมบูรณาการกับนายเอกชัย ไม้เรียง และนางสาวเพ็ญภัค เสาวภาคย์
นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ เจ้าหน้าที่จากกลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง พร้อมด้วย
นางสาวธิฐิพัฒฐ์ จิรกวิน นักวิชาการเกษตร และนายสิทธิชัย กลศึก เจ้าพนักงานการเกษตร เจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรตรัง กรมวิชาการเกษตร ลงพื้นที่สำรวจโรคลำต้นเน่าปาล์มน้ำมัน ณ แปลงปาล์มน้ำมันของ
นางปิยะรัตน์ คุณาธรรม หมู่ที่ 3 ตำบลทุ่งค่าย อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง
จากการลงพื้นที่พบว่า ต้นปาล์มน้ำมันของเกษตรกรตายเป็นหย่อม ๆ และพบเห็ดที่บริเวณโคนต้นปาล์มน้ำมัน จึงสรุปได้ว่าเป็นโรคลำต้นเน่าที่เกิดจากเชื้อเห็ดกาโนเดอร์มา (Garnoderma sp.)
โรคลำต้นเน่าของปาล์มน้ำมัน (Basal stem rot) เป็นโรคของปาล์มน้ำมันที่ร้ายแรง พบแพร่กระจายในสวนปาล์มน้ำมันโดยเฉพาะในทางภาคใต้ สาเหตุเกิดจากเชื้อรา ที่มีชื่อว่า กาโนเดอร์มา (Garnoderma sp.) เป็นดอกเห็ดคล้ายเห็ดหลินจือ การพบดอกเห็ดบนต้นปาล์มนั้นแสดงว่าเส้นใยของเชื้อราได้เข้าไปทำลายเซลล์ในลำต้นปาล์มน้ำมันมากแล้วทำให้ต้นปาล์มน้ำมันยืนต้นตายได้ภายใน 2-3 ปี หลังแสดงอาการของโรค การป้องกันกำจัดโรคปาล์มลำต้นเน่า ทำได้ยากเนื่องจากเชื้อราก่อโรคอาศัยอยู่ในดิน เมื่อสภาพแวดล้อมเหมาะสม มันจะสร้างเส้นใยจำนวนมากแทงเข้าไปทำลายต้นปาล์มน้ำมันก่อนที่จะสร้างเป็นดอกเห็ดให้เห็น จึงทำให้การควบคุมโรคยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร
นางสาวเพ็ญภัค เสาวภาคย์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ เจ้าหน้าที่จากกลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง ได้แนะนำให้เกษตรกรปฏิบัติ ดังนี้
1.หมั่นสำรวจแปลงเพื่อสังเกตอาการของโรค โดยเฉพาะแปลงที่เคยมีประวัติการเกิดโรคในพื้นที่
2.ทำความสะอาดแปลง เช่น กำจัดตอปาล์มเก่า วัชพืช หรือพืชอาศัยอื่น ลดการสะสมของเชื้อในธรรมชาติ และจัดการระบบระบายน้ำให้ดี
3.ทำความสะอาดเครื่องมือทางการเกษตรก่อนนำไปใช้
4.บำรุงต้นปาล์มให้แข็งแรง ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ผสมกับเชื้อไตรโคเดอร์มา อัตรา เชื้อสด 1 กิโลกรัม รำละเอียด 4 – 10 กิโลกรัม และปุยอินทรีย์
50 – 100 กิโลกรัม นำไปหว่านรอบทรงพุ่ม 3-6 กิโลกรัมต่อต้น ในช่วงที่มีความชื้นสูง หรือรองกันหลุมก่อนปลูก 100 กรัมต่อหลุม
5.เมื่อพบดอกเห็ดเจริญเติบโตขึ้น ให้นำไปทำลายทิ้งนอกแปลงทันที และถากเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายออก ทาทับด้วยเชื้อไตรโคเดอร์มา หรือใช้สารเคมีกำจัดเชื้อรา
6.ราดหรือพ่นบริเวณรอบโคนต้นที่เกิดโรค และโดยรอบอย่างสม่ำเสมอด้วยเชื้อไตรโคเดอร์ม่า โดยผสมเชื้อสด 1 กิโลกรัม ต่อน้ำ 20 – 100 ลิตร
7.ขุดหลุมบริเวณรอบโคนต้นที่เกิดโรคให้ลึกมากพอที่จะป้องกันการแพร่ระบาดไปสู่ต้นใกล้เคียง
ภาพ : นางสาวธิฐิพัฒฐ์ จิรกวิน นักวิชาการเกษตร
ข่าว/รายงาน : นางแพรวพรรณ ทองพิทักษ์ นวส.ชำนาญการ





