
เกษตรสิเการ่วมกับพัฒนาที่ดินตรัง จัดกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้การพัฒนาที่ดิน
…………………………………
วันที่ 28 พฤษภาคม 2567 นางสาวสุมนรัตน์ ตรึกตรอง เกษตรอำเภอสิเกา มอบหมายให้นางสาวอรณิช คะเณย์ และนายไพโรจน์ เพชรจำรัส นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ สำนักงานเกษตรอำเภอสิเกา ร่วมกับเจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาที่ดินตรัง จัดกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้การพัฒนาที่ดิน ภายใต้โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ประจำปี 2567 แปลงใหญ่พริกไทยบ้านผมเด็น หมู่ที่ 6 ตำบลไม้ฝาด (แปลงปี 67) โดยมีการถ่ายทอดความรู้และสาธิตการผลิตน้ำหมักชีวภาพจากสับปะรด ซึ่งสถานีพัฒนาที่ดินตรังได้สนับสนุน ถังบรรจุขนาด 120 ลิตร กากน้ำตาล และสับปะรด โดยใช้สารเร่งซุปเปอร์ พด.2 ที่ใช้ผลิตปุ๋ยอินทรีย์น้ำ ซึ่งมีจุลินทรีย์ 5 สายพันธุ์ได้แก่ ยีสต์ผลิตแอลกอฮอล์และกรดแลกติก แบคทีเรียผลิตกรดแลกติก แบคทีเรียย่อยสลายโปรตีน แบคทีเรียย่อยสลายไขมันและแบคทีเรียย่อยสลายอนินทรีย์ฟอสฟอรัส เมื่่อย่อยสลายวัสดุทางการเกษตรแล้วทำให้ได้ฮอร์โมนหรือสารเสริมในการเจริญเติบโตของพืช เช่น ออกซิน จิบเบอเรลลินและไซโตไคนิน รวมทั้งกรดอินทรีย์หลายชนิด เช่น กรดแลกติก กรดอะซิติก กรดอะมิโนและกรดฮิวมิก
ส่วนผสมในการทำน้ำหมักสับปะรด 1 ถัง
1. สับปะรด 40 กิโลกรัม
2. กากน้ำตาล 10 กิโลกรัม
3. สารเร่งซุปเปอร์ พด.2 จำนวน 2 ซอง
4.น้ำเปล่าครึ่งถัง
วิธีการทำ
1. ใส่กากน้ำตาล 10 กิโลกรัมและสารเร่ง พด.2 จำนวน 2 ซอง จากนั้นเติมน้ำครึ่งถัง คนให้ส่วนผสมละลายเข้ากันดี
2. หั่นสับปะรดเป็นชิ้นขนาดพอดี จำนวน 40 กิโลกรัม ใส่ลงในถัง คนให้ทั่ว
3. ปิดฝาถัง ตั้งไว้ในที่ร่ม โดยทุกๆ 2 วัน เปิดฝาถังแล้วคนให้ทั่ว
4. หมักเป็นเวลา 10 วัน จึงเริ่มนำมาใช้ได้
หมายเหตุ เนื่องจากสับปะรดย่อยสลายเร็วทำให้ใช้ระยะเวลาไม่นาน หากมีการใส่พืชผักที่มีเปลือกแข็งหรือเศษอาหารในครัวเรือน เช่น ปลา เปลือกกุ้ง ควรหมักอย่างน้อย 1-2 เดือน
อัตราส่วนการนำไปใช้ น้ำหมัก 1-2 ช้อนต่อน้ำ 20ลิตร สามารถฉีดพ่นหรือรดลงดินได้ทุกๆ 10 วัน
ประโยชน์ของน้ำหมักชีวภาพ
เร่งการเจริญเติบโตของรากพืช เร่งการขยายตัวของใบ และการยืดตัวของลำต้น เร่งการงอกของเมล็ดให้ดีขึ้น เร่งให้ออกดอกและติดผลดีขึ้น การใช้น้ำหมักให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ควรปรับปรุงบำรุงดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์
ภาพ : เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอสิเกา/เจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาที่ดินตรัง
ข่าว : น.ส.อรณิช คะเณย์ นวส.ปฏิบัติการ
รายงาน : นายไพโรจน์ เพชรจำรัส นวส.ปฏิบัติการ










