เกษตรปะเหลียน ร่วมต้อนรับและให้ข้อมูลการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์ต้นน้ำและเพิ่มประสิทธิภาพระบบชลประทานในการพัฒนาอาชีพในบริเวณโครงการฝายคลองลิพัง ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน แก่คณะติดตามงานจากกรมส่งเสริมการเกษตร

วันที่ 3 ตุลาคม 2568 นายสุภัทธ คงด้วง เกษตรอำเภอปะเหลียน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอําเภอปะเหลียน ร่วมมือเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง และองค์การบริหารส่วนตำบลลิพัง ร่วมต้อนรับและให้ข้อมูลการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์ต้นน้ำและเพิ่มประสิทธิภาพระบบชลประทานในการพัฒนาอาชีพในบริเวณโครงการฝายคลองลิพัง ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน (ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริตำบลลิพัง) แก่คณะติดตามงานจากกลุ่มโครงการพระราชดำริ กองส่งเสริมโครงการพระราชดำริ การจัดการพื้นที่และวิศวกรรมเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร นำโดยนายธนศักดิ์ วิวัฒนวานิช ผู้อำนวยการกลุ่มฯ เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์ต้นน้ำและเพิ่มประสิทธิภาพระบบชลประทานในการพัฒนาอาชีพในบริเวณโครงการฝายคลองลิพัง ตำบลลิพัง อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ณ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริตำบลลิพัง หมู่ที่ 2 ตำบลลิพัง อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง

โดยศูนย์ฯ ดังกล่าว มีเนื้อที่ จำนวน 21 ไร่ แบ่งพื้นที่ดำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ กิจกรรมด้านปศุสัตว์สำหรับเลี้ยงไก่ และทำแปลงหญ้า กิจกรรมด้านพืช พื้นที่สาธิตแปลงพริกไทยพันธุ์ปะเหลียน บ่อแหนแดง แปลงเกษตรผสมผสาน การใช้ระบบน้ำอัจฉริยะ กิจกรรมประมง การเลี้ยงปลากินพืช ปลาดุก และกบ กิจกรรมปรับปรุงบำรุงดิน การทำปุ๋ยหมัก กิจกรรมอื่นๆ ได้แก่ สวนสมุนไพร สวนป่า ซึ่งสำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง และสำนักงานเกษตรอำเภอปะเหลียน รับผิดชอบในส่วนของกิจกรรมเกษตรผสมผสาน เนื้อที่ 1.5 ไร่ มีกิจกรรมการปลูกพืชทั้งพืชอายุสั้น กลาง และยาว ปัจจุบัน ศูนย์ดังกล่าว เป็นแหล่งถ่ายทอดความรู้และศึกษาดูงานของเกษตรกรในพื้นที่และผู้สนใจทั่วไป เพื่อนำไปปฏิบัติใช้ในพื้นที่ของตนเอง เป็นการลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ในครัวเรือน รวมทั้งมีแหล่งเรียนรู้ชุมชนเกี่ยวกับการพัฒนาตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่ เป็นการพัฒนาและต่อยอดการใช้ประโยชน์โครงการฝายคลองลิพังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ให้ราษฎรในพื้นที่ใช้ประโยชน์ และเกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุดเป็นการสืบสานพระราชปณิธานในการ “สืบสาน รักษา และต่อยอด” โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริให้เกิดประโยชน์ต่อราษฎรในพื้นที่อย่างยั่งยืน