เกษตรเมืองตรัง ลงพื้นที่ให้คำแนะนำการจัดการโรคไหม้ข้าว พื้นที่ตำบลนาพละ

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน 2567

นางนิตยา จันทร์ประทีป เกษตรอำเภอเมืองตรัง มอบหมายให้ นางสาววรรณธิดา เบญจกุล นางสาวสุภาพร หมุนแก้ว และนางสาวสุภาวดี ดับพันธ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองตรัง ลงพื้นที่สำรวจแปลงข้าวในพื้นที่ หมู่ที่ 10 ตำบลนาพละ อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง ตามที่ได้รับแจ้งจากนางมะเนียน ชัยเดช เกษตรกรผู้ปลูกข้าวว่าพบอาการผิดปกติของข้าว

.

จากการสำรวจพบว่า ความผิดปกติดังกล่าว คืออาการของโรคใบไหม้ข้าว (Rice Blast Disease) เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อรา Pyricularia oryzae สามารถพบได้ในทุกระยะการเจริญเติบโต และทุกส่วนของต้นข้าวที่อยู่เหนือดิน ซึ่งเกิดจาก 4 สาเหตุหลัก ดังนี้

1. ใช้พันธุ์ข้าวที่อ่อนแอ ง่ายต่อการเข้าทำลายของโรค

2. อัตราส่วนของเม็ดพันธุ์ต่อเนื้อที่สูงเกินไป ทำให้ต้นข้าวหนาแน่น อากาศไม่ถ่ายเท กลายเป็นแหล่งสะสมของโรค

3. สภาพอากาศแห้งในตอนกลางวันและชื้นจัดในตอนกลางคืน ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อราสาเหตุโรคได้ง่าย

4. ใช้ปุ๋ยไนโตรเจนมากเกินความจำเป็น ทำให้ต้นข้าวเติบโตหนาแน่นเกินไป รวมถึงต้นอวบน้ำ ลำต้นไม่แข็งแรง

เบื้องต้นได้ให้คำแนะนำเกษตรกรดังนี้

1. หมั่นสำรวจแปลงนาอย่างสม่ำเสมอ หากพบอาการของโรค ให้ใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา ผสมน้ำในอัตราส่วน 1 กก. ต่อน้ำ 80-100 ลิตร ต่อพื้นที่ข้าว 1 ไร่ ฉีดพ่นทุก 10-15 วัน ในช่วงเช้าหรือเย็น(หลีกเลี่ยงช่วงที่มีแสงแดดจัด)

2. หากพบการระบาดรุนแรง ควรพ่นด้วยสารเคมีป้องกันและกำจัดเชื้อรา เช่น ไตรโซคลาโซน คาร์เบนดาซิม โดยปฎิบัติตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์

3. เลือกใช้พันธุ์ข้าวที่ต้านทานต่อโรคใบไหม้ข้าว เช่น พันธุ์กข5 กข11 กข27 กข33 (หอมอุบล80) กข37 กข41 กข43 กข47 ชัยนาท1 สันป่าตอง1 สุพรรณบุรี1 สุพรรณบุรี2 สุพรรณบุรี3 สุพรรณบุรี60 สุพรรณบุรี90 คลองหลวง1 ปทุมธานี1 หรือ พันธุ์พิษณุโลก 60-2

4. คลุกเมล็ดพันธุ์ข้าว 1 กก. เชื้อราไตรโคเดอร์มา 10 ก. ผสมน้ำ 10 มล. หรือแช่เมล็ดข้าว 100 กก. (ที่ผ่านการแช่น้ำแล้ว 1-2 วัน) กับเชื้อราไตรโคเดอร์มา 1 กก. ผสมน้ำ 100 ลิตร เป็นเวลา 30 นาที ก่อนนำเมล็ดข้าวไปหว่าน

5. หว่านเมล็ดข้าว 15-20 กก. ต่อไร่ ซึ่งเป็นอัตราที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถถ่ายเทอากาศได้ดี และไม่ควรใส่ปุ๋ยไนโตรเจนมากเกินความจำเป็น

.

*ข้อมูลเพิ่มเติม : ลักษณะอาการของโรคไหม้ข้าว(แบ่งตามระยะการเจริญเติบโต)

ระยะกล้า : ใบมีแผลเป็นจุด โดยมีขอบสีน้ำตาลคล้ายรูปตา และมีสีเทาอยู่ตรงกลางแผล ความกว้างของแผลประมาณ 2-5 มิลลิเมตร และความยาวประมาณ 10-15 มิลลิเมตร แผลสามารถขยายลุกลามและกระจายทั่วบริเวณใบ ถ้าโรครุนแรง กล้าข้าวจะแห้งฟุบตาย อาการคล้ายถูกไฟไหม้

ระยะแตกกอ : อาการพบได้ที่ใบ ข้อต่อของใบ และข้อต่อของลำต้น ขนาดแผลจะใหญ่กว่าที่พบในระยะกล้า แผลลุกลามติดต่อกันได้ที่บริเวณข้อต่อ ส่วนใบจะมีลักษณะแผลช้ำสีน้ำตาลดำ และมักหลุดจากกาบใบเสมอ

ระยะออกรวง (โรคไหม้คอรวง) : ข้าวที่เริ่มให้รวง เมล็ดจะลีบ แต่หากเป็นโรคช่วงรวงข้าวใกล้เกี่ยวจะเกิดรอยแผลช้ำ สีน้ำตาลบริเวณคอรวง ทำให้เปราะหักง่าย รวงข้าวร่วงหล่นเสียหาย

ภาพ : จนท.สนง.กษอ.เมืองตรัง

ข่าว/รายงาน : นางสาวสุภาพร หมุนแก้ว นวส.ชก.

.

ติดตาม เกษตรเมืองตรัง ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่

เว็บไซต์ : https://trang.doae.go.th/mueang/

Line : https://lin.ee/16RPt0N

Instagram : https://instagram.com/kasetmtrang

Threads : https://www.threads.net/@kasetmtrang

X (Twitter) : https://twitter.com/kasetmtrang

Facebook : https://www.facebook.com/kasetmtrang

YouTube : https://www.youtube.com/@kasetmueangtrang_youngpae9979

Tiktok : https://www.tiktok.com/@kaset_mueangtrang?_t=8kYIt3jOB9t…